วันเสาร์ที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

เคล็ดลับหุ่นสวย วิธีที่ช่วยให้คุณมีรูปร่างดีเหมือนนางแบบ

เคล็ดลับหุ่นสวย วิธีที่ช่วยให้คุณมีรูปร่างดีเหมือนนางแบบ
               คงปฏิเสธไม่ได้ ว่าคุณเองหรือสาวๆ คนไหนก็อยากมีหุ่นเช้งวับดูมีสุขภาพดี แบบนางแบบ กันทั้งนั้น แต่กว่าจะไปถึงขั้นนั้นได้ คงเป็นเรื่องที่ยากมากสำหรับหลายๆ คน ดังนั้นวันนี้ rakhealth.com จึงขอแนะนำเคล็ดลับหุ่นสวย วิธีที่ช่วยให้คุณมีรูปร่างดีเหมือนนางแบบ มาฝากสาวๆ ทุกคน เชื่อว่าหากคุณตั้งใจจริง และไม่ยอมแพ้ หุ่นเปะเวอร์ แบบที่คุณสาวๆ ต้องการคงไม่หนีไปไหน แล้วเคล็ดลับนั้นล่ะ มีอะไรบ้างมาดูกันเลยค่ะ
 1.เปลี่ยนตนเองใหม่ หยุดขี้เกียจ ไปออกกำลังกายซะ

          ความเบื่อและขี้เกียจไปออกกำลังกายเป็นอุปสรรคใหญ่ในการมีรูปร่างที่สวยงาม แม้ว่าคุณจะทานอาหารที่เปี่ยมไปด้วยประโยชน์ หรือหลีกเลี่ยงอาหารไขมันสูง แต่หากคุณไม่คิดถึงการออกกำลังกายเลย รับรองว่าทั้งต้นแขน หน้าท้อง สะโพก รวมทั้งต้นขาของคุณไม่มีทางแบนราบได้แน่ ๆ ค่ะ ส่วนการใช้ยาลดความอ้วน หรืออาหารเสริมนั้น ก็ช่วยให้คุณลดน้ำหนักได้ในช่วงสั้น ๆ เท่านั้น แถมยังทิ้งผลข้างเคียงไว้ในระยะยาวอีกต่างหาก

          พูดมาเสียขนาดนี้ ก็คงต้องหันไปคิดเรื่องการออกกำลังกายบ้างแล้วล่ะค่ะ ไม่จำเป็นต้องไปเข้าฟิตเนสเป็นชั่วโมง ๆ หรอก แค่เจียดเวลาสัก 10-30 นาที มาออกกำลังกายก็ช่วยได้แล้ว หรือจะเลือกวิธีออกกำลังกายง่าย ๆ อย่างเช่น การเดิน แล้วก็ค่อย ๆ เพิ่มระยะทางขึ้นไปเรื่อย ๆ ก็จะช่วยให้คุณใช้พลังงานได้มากขึ้น และไขมันก็จะถูกเบิร์นออกไปได้ด้วย

          และสำหรับสาวทำงานที่มักบ่นว่าไม่มีเวลา เราขอแนะนำให้คุณหาเวลาสัก 10 นาที ลุกขึ้นมาเดินเล่นหลังรับประทานอาหารกลางวันบ้าง ดีกว่ากลับไปนั่งเฉย ๆ ที่โต๊ะทำงาน รู้ไหมคะว่า การเดินวันละ 10,000 ก้าว (เทียบได้กับการเดินเร็ว ๆ ประมาณ 20 นาที) จะช่วยให้คุณใช้พลังงานไปมากกว่า 500 กิโลแคลอรีเลยทีเดียว ว้าว! ไม่น่าเชื่อเลยใช่ไหมล่ะ

 2.อย่าอดอาหาร! ต้องทานให้ครบ 3 มื้อ

          หลายคนเข้าใจว่า การไดเอทแบบอดอาหารจะช่วยให้คุณลดน้ำหนักได้อย่างรวดเร็ว และส่วนใหญ่สาว ๆ มักจะอดอาหารมื้อเช้าเสียด้วย โดยให้เหตุผลว่า 'ไม่มีเวลาทาน' หรือไม่ก็คิดว่า 'เดี๋ยวก็ทานมื้อเที่ยงแล้ว' ทำให้สาว ๆ หลายคนยอมอด แล้วปล่อยให้ท้องหิวจนลืมตัวส่งผลให้ทานอาหารมากกว่าปกติในมื้อต่อไป ซึ่งจะทำให้คุณรู้สึกขี้เกียจ และง่วงนอนในตอนบ่ายไปเสียอีก

          วิธีนี้ไม่ดีต่อการรักษาหุ่นสวยของคุณสาว ๆ แน่นอนค่ะ เพราะเมื่อใดก็ตามที่คุณได้ทานอาหารหลังจากอดมื้อใดมื้อหนึ่งมา ร่างกายของคุณจะยิ่งสั่งให้คุณทานเข้าไปเรื่อย ๆ เพื่อชดเชยสารอาหารที่เสียไป และเก็บพลังงานสะสมไว้มากเท่าที่จะมากได้ ซึ่งไม่ต้องสงสัยเลยว่า ยิ่งคุณอดก็จะยิ่งทำให้คุณอ้วนขึ้นง่ายกว่าเดิมเสียอีก

          เช่นนั้นแล้ว วิธีที่ดีที่สุดเลยก็คือ ควรทานอาหารให้ครบทั้ง 3 มื้อค่ะ แต่อาจลดปริมาณลง หรือแบ่งส่วนเล็ก ๆ ไว้ทานระหว่างวันทุก ๆ 3-4 ชั่วโมง โดยเลือกอาหารจำพวก โยเกิร์ตไขมันต่ำ ผลไม้ที่มีน้ำตาลน้อย เพื่อป้องกันไม่ให้ระดับน้ำตาลในเลือดน้อยเกินไปนั่นเอง

 3.ใช้วิธีออกกำลังกายเฉพาะส่วน ไม่ใช่ทางที่ดีที่สุด

          เชื่อเถอะว่า ผู้หญิงส่วนใหญ่มักมีปัญหาที่ต้นขา หน้าท้อง สะโพก และต้นขาเหมือน ๆ กัน โดยเฉพาะสาวออฟฟิศที่พบได้บ่อยกว่าเพื่อน เพราะแทบไม่ค่อยได้เคลื่อนไหวร่างกายนั่นเอง ฉะนั้นแล้ว การออกกำลังกายเฉพาะส่วนก็มักเป็นวิธีที่สาว ๆ เลือกบริหารเพื่อช่วยให้ร่างกายบริเวณนั้นฟิตแอนด์เฟิร์มมากขึ้น

          แต่รู้ไหมว่า การที่เราออกกำลังกายแบบโฟกัสเฉพาะส่วน ไม่ว่าจะเป็นการซิทอัพเพื่อลดหน้าท้อง หรือการเล่นสควอชเพื่อให้ต้นขาเฟิร์ม อาจจะไม่มีประสิทธิภาพพอที่จะเบิร์นไขมันส่วนเกิน และทำให้รูปร่างคุณดีขึ้น เนื่องจากการที่จะกำจัดไขมันส่วนเกินออกไปนั้นจำเป็นต้องออกกำลังกายประเภทที่เสริมสร้างความแข็งแรงให้หัวใจ และออกกำลังกายในทุก ๆ ส่วนร่วมกับการควบคุมอาหาร

          ดังนั้น ใครที่มุ่งเน้นการออกกำลังกายแบบเฉพาะส่วนแล้วรู้สึกว่าไม่ได้ผลดังใจ เราขอแนะนำให้คุณหาเวลามาออกกำลังกายอย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 ครั้ง และให้ออกกำลังกายเฉพาะส่วนแบบที่คุณถนัดสักครึ่งชั่วโมงเป็นเวลา 2 ครั้งต่อสัปดาห์

 4.วิธีเผาผลานแคลอรีง่าย ๆ ภายใน 15 นาที

          'ไม่มีเวลาออกกำลังกาย' เป็นเหตุผลง่าย ๆ ที่คนมักอ้างเวลาขี้เกียจ แต่ความจริงแล้ว เราไม่จำเป็นต้องใช้เวลามากมายหลายชั่วโมงก็ออกกำลังกายได้ เพียงแค่ 15 นาทีเท่านั้นก็เพียงพอที่จะกำจัดแคลอรีส่วนเกินออกไปได้แล้วล่ะค่ะ โดยคุณอาจแบ่งช่วงเวลาออกกำลังกายออกเป็น 2-3 ครั้งในหนึ่งวัน แต่รวมกันให้ได้สัก 30 นาที ก็ถือว่าประสบความสำเร็จแล้วล่ะ

          ยกตัวอย่าง คุณอาจวิ่งขึ้นลงบันได หรือกระโดดเชือกหลังจากตื่นนอน สัก 15 นาที เมื่อไปทำงาน หลังทานอาหารเที่ยง คุณก็อาจจะลุกขึ้นมาเดินเล่นสัก 15 นาที หรือจะเลือกเต้นแอโรบิก, แอโรบ็อกซิ่ง สัก 15 นาที หรือกระทั่งเหงื่อออกก็ยังไหว แค่นี้คุณก็ออกกำลังกายได้วันละ 45 นาทีเข้าไปแล้วนะ ถ้าคุณทำแบบนี้ได้สัปดาห์ละ 5 ครั้ง ร่วมกับการควบคุมอาหาร รับรองว่า ภายใน 2 เดือน คุณจะเห็นความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นกับตัวเองแน่ ๆ ขอบอก

 5.ค่อยๆ ออกกำลังกายให้หนักขึ้นเพิ่มขึ้นวันละนิด

          สำหรับคนที่ห่างหายจากการออกกำลังกายมานานเหลือเกิน เมื่อถึงเวลาที่คุณจะกลับไปออกกำลังกายอีกครั้ง คงจะรู้สึกเหนื่อยไวขึ้น แต่หลังจากออกกำลังกายได้ระยะหนึ่งแล้ว ร่างกายของคุณจะเริ่มคุ้นเคยมากขึ้น ส่งผลให้การทำงานของหัวใจและปอดดีขึ้นไปด้วย

          เช่นนั้นแล้ว ถึงเวลาที่คุณต้องออกกำลังกายให้หนักขึ้น เพื่อสร้างกล้ามเนื้อ ช่วยให้หัวใจแข็งแรงขึ้น และกระตุ้นให้แคลอรีถูกกำจัดออกไปให้มากขึ้นกว่าเดิม แต่ไม่ได้หมายถึงให้คุณออกกำลังกายมากเกินไปทีเดียวนะคะ ควรเพิ่มปริมาณการออกกำลังกายทีละเล็กน้อย เช่น เพิ่มเวลา เพิ่มระยะทาง ตั้งเป้าให้สูงขึ้น แล้วค่อย ๆ ทำอย่างระมัดระวัง เพื่อให้อัตราการเต้นของหัวใจอยู่ระหว่าง 120-150 ครั้งต่อนาทีเป็นเวลาต่อเนื่องประมาณ 20 นาที จะช่วยให้คุณแข็งแรงขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ

http://www.rakhealth.com/article-114.html

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น