วันศุกร์ที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2557

3 ท่าลีลาบนเตียง ที่ทำให้คุณสุขแทบบ้า

3 ท่าลีลาบนเตียง ที่ทำให้คุณสุขแทบบ้า

                จากผลการสำรวจ WH Version of (International) Sex ถึงท่าทางในการร่วมรักในใจหนุ่มสาวรอบโลกพบว่า ท่าที่สาวๆ ทั่วโลกชอบกันมากที่สุดคือ “วูเมนออนท็อป (Woman on Top)” และท่าที่ได้รับความนิยมจากฝ่ายชายมากที่สุดคือ “ท่าน้องหมาเหลียวหลังแบบคุกเข่า” (ส่วนท่าที่ได้รับความนิยมน้อยที่สุดจากคู่รัก คือ “ท่ายืน” (แต่อาจเป็นท่าโปรดของคุณในบางสถานการณ์ก็ได้ เรารู้ดี) แต่...ต่อให้คุณชอบท่าเมกเลิฟในดวงใจมากขนาดไหน ถ้าให้ทำแต่ท่าเดิมๆ ทุกวัน ลีลาสุดโปรดอาจทำให้คุณเบื่อสุดๆ จนถึงหน่ายเซ็กซ์ไปเลยก็ได้ มาลองท่าใหม่ๆ ที่รับประกันความเสียวซี้ดจากรอบโลกกัน
      1. ท่าช้างจากอิตาลีและฝรั่งเศส
            มันคือท่าหมาขี้เกียจดีๆ นี่เอง เริ่มด้วยการนอนคว่ำหน้า อาจใช้หมอนวางรองบริเวณท้องเพื่อยกสะโพกขึ้น จากนั้นให้เขาสอดใส่จากด้านหลัง และใช้สองแขนยันลำตัวท่อนบนขึ้น ข้อดี ท่านี้สร้างความตื่นเต้นเร้าใจแต่แฝงด้วยความโรแมนติก “เนื้อแนบเนื้อ เขาสามารถคลอเคลีย จูบซุกไซ้ได้ถนัดนี่” เจียอา พอลโลนี (Gaia Polloni) นักจิตวิทยาและเซ็กซ์บำบัดในมิลานบอกเคล็ดลับ แถมหมอนที่รองอยู่ยังช่วยกระตุ้นจีสปอตได้เป็นอย่างดี
      2. ท่าดอกบัวสวรรค์จากสเปน
            นั่งลงบนตักเขา หันหน้าเข้าหากัน แยกขาโอบรัดสะโพกของอีกฝ่ายไว้เพื่อพยุงตัว (ตอนนี้รูปร่างคุณจะดูเหมือนดอกบัว) สำหรับชาวสเปนท่านี้เป็นตัวแทนของอิสรภาพทางเพศ ข้อดี คู่รักเมืองกระทิงดุส่วนใหญ่ไม่มองตากันตอนมีเซ็กซ์ ผู้ชายมักจะหันหน้าหนีแม้จะอยู่ในท่ามิชชันนารีก็ตาม แต่กับท่าดอกบัว ยังไงคุณทั้งสองก็ต้องเผชิญหน้ากัน อย่าพยายามหลบตาอีกฝ่ายล่ะ การได้สบตากันระหว่างเมกเลิฟนั้นแสนจะลึกซึ้งตรึงใจและวาบหวิวจนเกินจะทน
      3. มิชชั่นนารีที่ไม่ธรรมดาจากเนเธอร์แลนด์
            ท่าปกติที่ไม่ปกตินี้ ทำให้เซ็กซ์ธรรมดาไม่ซ้ำซากอีกต่อไป แต่คุณต้องเข้าท่านี้ ‘ด้วยการอ้าขาให้กว้างขึ้นอีกนิด (หรือกว้างมากที่สุดเท่าที่คุณจะทำได้)’ ข้อดี ยิ่งผู้หญิงอ้าซ่ามากเท่าไหร่ (เปิดทั้งแขนและขาทั้งสองข้างด้วย) เธอก็จะยิ่งแข็งขืนได้น้อยลงเท่านั้น คุณจะเล่นบททาสสาวก็ได้และเรารับรองความอีโรติกของเซ็กซ์ในค่ำนี้อย่างแน่นอน

http://www.rakhealth.com/article-66.html

การช่วยตัวเองของสาวๆ ความสุขเล็กๆ น้อยๆ ที่ไม่แตกต่างจากผู้ชาย

การช่วยตัวเองของสาวๆ ความสุขเล็กๆ น้อยๆ ที่ไม่แตกต่างจากผู้ชาย
                    สำหรับ หญิงสาว มักพบว่าผู้หญิงส่วนใหญ่ไม่ค่อยยอมคุยถึงเรื่องนี้กันนัก เพราะกลัวถูกมองว่าเป็นผู้หญิงไฟแรงสูง หรือมีความต้องการทางเพศสูง แต่ในความเป็นจริงตามการวิจัยพบว่า ผู้หญิงส่วนใหญ่มักจะทำมาสเตอร์เบชั่นกันทั้งนั้น การช่วยตัวเองจึงเป็นสิ่งที่ผู้หญิงส่วนมากไม่ต้องการที่จะพูดถึง แต่ก็ปฏิบัติกัน การช่วยตัวเองของผู้หญิงก็มีเป้าหมายเดียวกันกับผู้ชายนั่นแหละ เพราะผู้หญิงเองก็มีความต้องการทางเพศเหมือนกัน 

                    การช่วยตัวเองสำหรับผู้หญิง คือการลูบคลำบริเวณคลิตอริส หรือใช้นิ้วมือเคลื่อนไหวเข้าออกในช่องคลอดจนถึงจุดสุดยอด ซึ่งจะมีลักษณะอาการกล้ามเนื้อบริเวณช่องคลอดจะเกิดอาการร้อนผ่าว เกร็งและเกิดความรู้สึกมีความสุขไปทั่วทั้งร่าง
         

                    การช่วยตัวเองสำหรับผู้หญิงไม่ใช่สิ่งที่เลวร้ายหรือสิ่งผิด แต่เป็นเรื่องของการเรียนรู้ว่าอะไรเป็นสิ่งที่ตัวเราเองชื่นชอบ และยังเป็นการสำรวจร่างกายของเราเองอีกด้วย นอกจากนี้มันยังช่วยให้เราไม่ตั้งท้อง ไม่ติดโรคทางเพศสัมพันธ์รวมทั้งเอดส์ การช่วยตัวเองจึงเป็นทางเลือกของผู้หญิงว่าจะเลือกทำหรือไม่ เราอาจสำเร็จความใคร่ด้วยตนเองหรือช่วยทำให้กับคู่ของเราแทนการมีเพศ สัมพันธ์กันก็ได้ 
http://www.rakhealth.com/article-147.html

เทรนด์ สีผมที่เหมาะสม สำหรับคนผิวคล้ำหรือผิวสีแทน

เทรนด์ สีผมที่เหมาะสม สำหรับคนผิวคล้ำหรือผิวสีแทน

               สำหรับสาวผิวคล้ำหรือสาวผิวสีแทน ที่มีความกังวลใจ เมื่อคิดที่อยากจะทำสีผมใหม่ เมื่อได้ดูทีวี หรืออ่านนิตยสาร ได้เห็นนางแบบในโฆษณา ย้อมผมสีต่างๆ แล้วก็ดูสวยดี แต่ก็กลัว ว่าถ้าทำขึ้นมาแล้วไม่เหมาะกับสีผิวตัวเอง จะทำให้โดนคนว่า มากกว่าโดนชม ไม่ต้องกังวลไปค่ะ เพราะวันนี้ rakhealth.com จะมาแนะนำ การเลือกสีผมที่เหมาะกับสีผิว สาวผิวคล้ำ หรือ สาวผิวสีแทน กันค่ะ
               อย่างแรกเลย คุณสาวๆ ต้องสังเกตสีผิวตัวเองก่อน ว่าเป็นผิวประเภทไหน สาวไทยอย่างเรา มักจะมีผิวสีขาวเหลือง หรือออกไปในทางสีแทนอบอุ่น ซึ่งอย่างหลัง คือสิ่งที่เรากำลังจะพูดถึงกันในวันนี้ค่ะ สีผมที่เหมาะกับคนผิวคล้ำ หรือผิวสีแทน คือสีเข้มๆ อย่างสีน้ำตาลเข้ม สี chestnut หรือ สีมะฮอกกานี ถ้าต้องการไฮไลท์ ควรใช้เลือกที่มีสีประกายแดง หรือ ซินนามอน ควรหลีกเลี่ยงสีบลอนอ่อนๆ อย่าไม่คิดทำเป็นอันขาด เพราะมันจะทำให้ ดูเป็นคนผิวคล้ำ ดูเหลืองซีดกันเข้าไปใหญ่ คนอาจจะเข้าใจผิด คิดว่าเราป่วยเป็นโรค หรือไม่สบายเอาได้ แน่นอนว่าคุณก็จะกลายเป็นเป้า ให้คนอื่นเขาแอบด่าในใจ ไปโดยปริยาย ให้ลองเพิ่มสี ที่มีประกายแดงเข้าไปแทน เพื่อปรับสมดุล ระว่างสีผม และสีผิวให้เข้ากันค่ะ
 
 
 

การเลือกใช้ ครีมรักษาสิว ให้ถูกวิธี และได้ผล

การเลือกใช้ ครีมรักษาสิว ให้ถูกวิธี และได้ผล

               ครีมรักษาสิวอุดตัน วัยรุ่นส่วนใหญ่ และส่วนมากนิยมเป็นสิวกัน ไม่ว่าจะเป็นสิวอุดตัน หรือว่าสิวอักเสบ ก็เป็นได้หมดเกือบทุกคน บางคนก็เป็นมากและน้อย แล้วแต่บุคคลคะ บางคนอาจจะรักษาหายแต่ว่านานหน่อย แต่บางคนอาจจะรักษาได้เร็ว ขึ้นอยู่กับบุคคลด้วย เพราะว่าแต่ละคนไม่เหมือนกัน

การแบ่งชนิดของสิว
   1. สิวหัวเปิด หรือสิวหัวดำ มีลักษณะเป็นตุ่มนูนเล็กน้อย เส้นผ่านศูนย์กลางตั้งแต่ 0.1-3 มิลลิเมตร และสังเกตดี ๆ จะมีจุดดำอยู่ตรงกลางอีกด้วยคะ
   2. สิวหัวปิด หรือ สิวหัวขาว  เป็นตุ่มนูนเล็กน้อย เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 0.1-3 มิลลิเมตร มีสีเดียวกันกับผิวหนังปกติ สิวประเภทนี้เกิดจากการอุดตันสุสมอยู่ในท่อเปิดของต่อมไขมันและรูขุมขน
การรักษาสิว 
              ปัจจุบันมีทางเลือกหลากหลายมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการใช้ยาทา และ ยาทาน ซึ่งแต่ละวิธีมีผลข้างเคียงสูง ไม่ว่าจะเป็นขณะที่ใช้ปัจจุบัน หรือในอนาคตก็ตาม ไม่ว่าจะอย่างไร ก็ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์เท่านั้น และจะต้องได้รับคำแนะนำอย่างถูกต้องในการใช้ยาดังกล่าวคะ
              เพราะฉนั้นการเลือกยาที่ใช้รักษาสิว ไม่ว่าจะเป็นสิวอุดตัน สิวหัวขาว สิวอักเสบ ก็ต้องเลือกให้ถูกต้องกระประเภทสิวที่คุณเป็น และควรที่จะปรึกษาเภสัชก่อนใช้ยาทุกครั้ง
 
http://www.rakhealth.com/article-164.html

วันเสาร์ที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

สุดฮิต! แฟชั่นที่คาดผมไหมพรม สำหรับหวานแบบเจ้าหญิง

สุดฮิต! แฟชั่นที่คาดผมไหมพรม สำหรับหวานแบบเจ้าหญิง
           กระแสแฟชั่นเกาหลีนี้ถือว่าได้รับความนิยมแบบไม่เสื่อมคลายไปจากแฟชั่นเมืองไทยเลยนะค่ะ และในที่สุดตอนนี้ก็มีเทนรแฟชั่นที่คาดผมไหมพรมที่กำลังมาแรง และกลายเป็นแฟชั่นสุดฮิตไปซะแล้ว!                
          วันนี้เรามีแฟชั่นเกาหลีฟีเวอร์อีกแล้วค่ะ แต่ทีนี้มาเป็นกิ๋บช็อปอันเล็ก มาให้สวยๆ เริ่ดๆ บนผมกันค่ะ มาเครื่องประดับความสวยด้วย ที่คาดผมไหมพรม เพราะผู้นำแฟชั่นก็ไม่ใช่ใครที่ไหน ก็ดาราสาว คิม แตฮี นางเอกจากซีรี่ย์เกาหลีเรื่อง My Princess ที่กำลังออนแอร์อยู่ที่ประเทศเกาหลีในขณะนี้ หลังเธอใส่ ที่คาดผมไหมพรม ออกอากาศในละคร เครื่องประดับชิ้นนี้ก็กลายเป็นแฟชั่นยอดฮิตของสาว ๆ ไปในพริบตา


          ก็เพราะความน่ารัก สำหรับ ที่คาดผมไหมพรม ที่สาวคิม แตฮี  ออกจะหวานดูเป็นเจ้าหญิง ได้เป็นอย่างดี งานนี้สาว ๆ ไทยที่น่ารักไม่แพ้เกาหลี ที่อยากมีลุคปรับเปลี่ยนลุคให้เหมือนเจ้าหญิง ต้อนรับวันวาเลนไทน์ ที่รอเจ้าชายมารับไปเดท มาหาใส่ ที่คาดผมไหมพรม เพื่อเพิ่มความหวาน ที่มาพร้อมกับความเก๋ น่ารักให้กับตัวเองกันดีกว่าค่ะ

เทคนิคแต่งหน้าแบบหวานๆ โทนสีพีช

เทคนิคแต่งหน้าแบบหวานๆ โทนสีพีช
                วันนี้ rakhealth ขอนำเสนอวิธีแต่งหน้าสำหรับสาวหน้าหวานๆ โทนสีพีช เหมาะสำหรับวันที่ต้องการความหวาน แต่แฝงด้วยความเปรี้ยวนิดๆ  มาดูกันเลยค่ะ

http://www.rakhealth.com/article-72.html 



เคล็ดลับหุ่นสวย วิธีที่ช่วยให้คุณมีรูปร่างดีเหมือนนางแบบ

เคล็ดลับหุ่นสวย วิธีที่ช่วยให้คุณมีรูปร่างดีเหมือนนางแบบ
               คงปฏิเสธไม่ได้ ว่าคุณเองหรือสาวๆ คนไหนก็อยากมีหุ่นเช้งวับดูมีสุขภาพดี แบบนางแบบ กันทั้งนั้น แต่กว่าจะไปถึงขั้นนั้นได้ คงเป็นเรื่องที่ยากมากสำหรับหลายๆ คน ดังนั้นวันนี้ rakhealth.com จึงขอแนะนำเคล็ดลับหุ่นสวย วิธีที่ช่วยให้คุณมีรูปร่างดีเหมือนนางแบบ มาฝากสาวๆ ทุกคน เชื่อว่าหากคุณตั้งใจจริง และไม่ยอมแพ้ หุ่นเปะเวอร์ แบบที่คุณสาวๆ ต้องการคงไม่หนีไปไหน แล้วเคล็ดลับนั้นล่ะ มีอะไรบ้างมาดูกันเลยค่ะ
 1.เปลี่ยนตนเองใหม่ หยุดขี้เกียจ ไปออกกำลังกายซะ

          ความเบื่อและขี้เกียจไปออกกำลังกายเป็นอุปสรรคใหญ่ในการมีรูปร่างที่สวยงาม แม้ว่าคุณจะทานอาหารที่เปี่ยมไปด้วยประโยชน์ หรือหลีกเลี่ยงอาหารไขมันสูง แต่หากคุณไม่คิดถึงการออกกำลังกายเลย รับรองว่าทั้งต้นแขน หน้าท้อง สะโพก รวมทั้งต้นขาของคุณไม่มีทางแบนราบได้แน่ ๆ ค่ะ ส่วนการใช้ยาลดความอ้วน หรืออาหารเสริมนั้น ก็ช่วยให้คุณลดน้ำหนักได้ในช่วงสั้น ๆ เท่านั้น แถมยังทิ้งผลข้างเคียงไว้ในระยะยาวอีกต่างหาก

          พูดมาเสียขนาดนี้ ก็คงต้องหันไปคิดเรื่องการออกกำลังกายบ้างแล้วล่ะค่ะ ไม่จำเป็นต้องไปเข้าฟิตเนสเป็นชั่วโมง ๆ หรอก แค่เจียดเวลาสัก 10-30 นาที มาออกกำลังกายก็ช่วยได้แล้ว หรือจะเลือกวิธีออกกำลังกายง่าย ๆ อย่างเช่น การเดิน แล้วก็ค่อย ๆ เพิ่มระยะทางขึ้นไปเรื่อย ๆ ก็จะช่วยให้คุณใช้พลังงานได้มากขึ้น และไขมันก็จะถูกเบิร์นออกไปได้ด้วย

          และสำหรับสาวทำงานที่มักบ่นว่าไม่มีเวลา เราขอแนะนำให้คุณหาเวลาสัก 10 นาที ลุกขึ้นมาเดินเล่นหลังรับประทานอาหารกลางวันบ้าง ดีกว่ากลับไปนั่งเฉย ๆ ที่โต๊ะทำงาน รู้ไหมคะว่า การเดินวันละ 10,000 ก้าว (เทียบได้กับการเดินเร็ว ๆ ประมาณ 20 นาที) จะช่วยให้คุณใช้พลังงานไปมากกว่า 500 กิโลแคลอรีเลยทีเดียว ว้าว! ไม่น่าเชื่อเลยใช่ไหมล่ะ

 2.อย่าอดอาหาร! ต้องทานให้ครบ 3 มื้อ

          หลายคนเข้าใจว่า การไดเอทแบบอดอาหารจะช่วยให้คุณลดน้ำหนักได้อย่างรวดเร็ว และส่วนใหญ่สาว ๆ มักจะอดอาหารมื้อเช้าเสียด้วย โดยให้เหตุผลว่า 'ไม่มีเวลาทาน' หรือไม่ก็คิดว่า 'เดี๋ยวก็ทานมื้อเที่ยงแล้ว' ทำให้สาว ๆ หลายคนยอมอด แล้วปล่อยให้ท้องหิวจนลืมตัวส่งผลให้ทานอาหารมากกว่าปกติในมื้อต่อไป ซึ่งจะทำให้คุณรู้สึกขี้เกียจ และง่วงนอนในตอนบ่ายไปเสียอีก

          วิธีนี้ไม่ดีต่อการรักษาหุ่นสวยของคุณสาว ๆ แน่นอนค่ะ เพราะเมื่อใดก็ตามที่คุณได้ทานอาหารหลังจากอดมื้อใดมื้อหนึ่งมา ร่างกายของคุณจะยิ่งสั่งให้คุณทานเข้าไปเรื่อย ๆ เพื่อชดเชยสารอาหารที่เสียไป และเก็บพลังงานสะสมไว้มากเท่าที่จะมากได้ ซึ่งไม่ต้องสงสัยเลยว่า ยิ่งคุณอดก็จะยิ่งทำให้คุณอ้วนขึ้นง่ายกว่าเดิมเสียอีก

          เช่นนั้นแล้ว วิธีที่ดีที่สุดเลยก็คือ ควรทานอาหารให้ครบทั้ง 3 มื้อค่ะ แต่อาจลดปริมาณลง หรือแบ่งส่วนเล็ก ๆ ไว้ทานระหว่างวันทุก ๆ 3-4 ชั่วโมง โดยเลือกอาหารจำพวก โยเกิร์ตไขมันต่ำ ผลไม้ที่มีน้ำตาลน้อย เพื่อป้องกันไม่ให้ระดับน้ำตาลในเลือดน้อยเกินไปนั่นเอง

 3.ใช้วิธีออกกำลังกายเฉพาะส่วน ไม่ใช่ทางที่ดีที่สุด

          เชื่อเถอะว่า ผู้หญิงส่วนใหญ่มักมีปัญหาที่ต้นขา หน้าท้อง สะโพก และต้นขาเหมือน ๆ กัน โดยเฉพาะสาวออฟฟิศที่พบได้บ่อยกว่าเพื่อน เพราะแทบไม่ค่อยได้เคลื่อนไหวร่างกายนั่นเอง ฉะนั้นแล้ว การออกกำลังกายเฉพาะส่วนก็มักเป็นวิธีที่สาว ๆ เลือกบริหารเพื่อช่วยให้ร่างกายบริเวณนั้นฟิตแอนด์เฟิร์มมากขึ้น

          แต่รู้ไหมว่า การที่เราออกกำลังกายแบบโฟกัสเฉพาะส่วน ไม่ว่าจะเป็นการซิทอัพเพื่อลดหน้าท้อง หรือการเล่นสควอชเพื่อให้ต้นขาเฟิร์ม อาจจะไม่มีประสิทธิภาพพอที่จะเบิร์นไขมันส่วนเกิน และทำให้รูปร่างคุณดีขึ้น เนื่องจากการที่จะกำจัดไขมันส่วนเกินออกไปนั้นจำเป็นต้องออกกำลังกายประเภทที่เสริมสร้างความแข็งแรงให้หัวใจ และออกกำลังกายในทุก ๆ ส่วนร่วมกับการควบคุมอาหาร

          ดังนั้น ใครที่มุ่งเน้นการออกกำลังกายแบบเฉพาะส่วนแล้วรู้สึกว่าไม่ได้ผลดังใจ เราขอแนะนำให้คุณหาเวลามาออกกำลังกายอย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 ครั้ง และให้ออกกำลังกายเฉพาะส่วนแบบที่คุณถนัดสักครึ่งชั่วโมงเป็นเวลา 2 ครั้งต่อสัปดาห์

 4.วิธีเผาผลานแคลอรีง่าย ๆ ภายใน 15 นาที

          'ไม่มีเวลาออกกำลังกาย' เป็นเหตุผลง่าย ๆ ที่คนมักอ้างเวลาขี้เกียจ แต่ความจริงแล้ว เราไม่จำเป็นต้องใช้เวลามากมายหลายชั่วโมงก็ออกกำลังกายได้ เพียงแค่ 15 นาทีเท่านั้นก็เพียงพอที่จะกำจัดแคลอรีส่วนเกินออกไปได้แล้วล่ะค่ะ โดยคุณอาจแบ่งช่วงเวลาออกกำลังกายออกเป็น 2-3 ครั้งในหนึ่งวัน แต่รวมกันให้ได้สัก 30 นาที ก็ถือว่าประสบความสำเร็จแล้วล่ะ

          ยกตัวอย่าง คุณอาจวิ่งขึ้นลงบันได หรือกระโดดเชือกหลังจากตื่นนอน สัก 15 นาที เมื่อไปทำงาน หลังทานอาหารเที่ยง คุณก็อาจจะลุกขึ้นมาเดินเล่นสัก 15 นาที หรือจะเลือกเต้นแอโรบิก, แอโรบ็อกซิ่ง สัก 15 นาที หรือกระทั่งเหงื่อออกก็ยังไหว แค่นี้คุณก็ออกกำลังกายได้วันละ 45 นาทีเข้าไปแล้วนะ ถ้าคุณทำแบบนี้ได้สัปดาห์ละ 5 ครั้ง ร่วมกับการควบคุมอาหาร รับรองว่า ภายใน 2 เดือน คุณจะเห็นความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นกับตัวเองแน่ ๆ ขอบอก

 5.ค่อยๆ ออกกำลังกายให้หนักขึ้นเพิ่มขึ้นวันละนิด

          สำหรับคนที่ห่างหายจากการออกกำลังกายมานานเหลือเกิน เมื่อถึงเวลาที่คุณจะกลับไปออกกำลังกายอีกครั้ง คงจะรู้สึกเหนื่อยไวขึ้น แต่หลังจากออกกำลังกายได้ระยะหนึ่งแล้ว ร่างกายของคุณจะเริ่มคุ้นเคยมากขึ้น ส่งผลให้การทำงานของหัวใจและปอดดีขึ้นไปด้วย

          เช่นนั้นแล้ว ถึงเวลาที่คุณต้องออกกำลังกายให้หนักขึ้น เพื่อสร้างกล้ามเนื้อ ช่วยให้หัวใจแข็งแรงขึ้น และกระตุ้นให้แคลอรีถูกกำจัดออกไปให้มากขึ้นกว่าเดิม แต่ไม่ได้หมายถึงให้คุณออกกำลังกายมากเกินไปทีเดียวนะคะ ควรเพิ่มปริมาณการออกกำลังกายทีละเล็กน้อย เช่น เพิ่มเวลา เพิ่มระยะทาง ตั้งเป้าให้สูงขึ้น แล้วค่อย ๆ ทำอย่างระมัดระวัง เพื่อให้อัตราการเต้นของหัวใจอยู่ระหว่าง 120-150 ครั้งต่อนาทีเป็นเวลาต่อเนื่องประมาณ 20 นาที จะช่วยให้คุณแข็งแรงขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ

http://www.rakhealth.com/article-114.html